วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สารพัดวิธีล้างผัก



การล้างผักให้สดสะอาดสำหรับเราและลูก ๆ 

puk

การล้างผักสดสำหรับสัตว์เลี้ยง สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งกับหนูแกสบี้ เพราะอาหารของหนูแกสบี้ มักจะเป็นผักผลไม้ เสริม ดังนั้นหากผักที่ท่านนำมาให้หนูแกสบี้ทาน ไม่สะอาดหรือ มียาฆ่าแมลง ก็อาจจะเป็นอัตรายกับหนูแกสบี้ของเพื่อนๆได้เช่นกัน
พอดีผมเห็นมีสมาชิกในบอร์ด แฮมสเตอร์ออนไลน์ แนะนำไว้ให้ เลยขอเอามาแนะนำต่อในที่นี้ให้หลายๆท่านได้เข้ามาศึกษากันครับ
1. ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (baking soda) 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำอุ่น 1 กะละมัง (20 ลิตร) แช่ทิ้งไว้นาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 90-95

2. แช่ผักในน้ำผสมน้ำส้มสายชูนานประมาณ 15 นาที โดยใช้น้ำส้มสายชูอย่างเข้มข้น 0.5% 1 ขวดต่อน้ำ 4 ลิตร สามารถลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 60-84

3. ล้างผักในน้ำไหลผ่าน โดยเด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะแกรงโปร่ง เปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผักล้างนาน 2 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 54-63

4. ล้างผักด้วยน้ำผสมด่างทับทิม โดยผสมด่างทับทิมปริมาณ 20-30 เกล็ด ต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 35-43

5. แช่ผักในน้ำสะอาด โดยล้างผักให้สะอาดจากสิ่งสกปรกด้วยน้ำครั้งหนึ่งก่อนและเด็ดเป็นใบๆแช่ลงใน อ่างนาน 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 7-33

6. ลวกผักด้วยน้ำร้อน  จะลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 50

7. ใช้น้ำผสมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที

8. แช่น้ำซาวข้าวนาน 10 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

9. ล้างด้วยน้ำขี้เถ้า 0.5% และ 10% (อะไรคือน้ำขี้เถ้า?? ) แช่ทิ้งไว้นาน 2-4 นาทีแล้วจึงล้างออก
บางข้อปริมาณเหมือนจาล้างผักเลี้ยงน้องหนูทั้งกองทัพ  ยังไงก็ไปทอนกันดูนะจ๊ะ ห้ามถามพี่ เพราะพี่ตกเลข 555

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะ
บางข้อปริมาณเหมือนจาล้างผักเลี้ยงน้องหนูทั้งกองทัพ Smiley ยังไงก็ไปทอนกันดูนะจ๊ะ ห้ามถามพี่ เพราะพี่ตกเลข 555

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีแบบนี้จาก www.oknation.net

ข้อควรระวังกับเรื่องอาหารของหนูแกสบี้


สิ่งที่ควรระวังสำหรับเรื่องอาหารของหนูแกสบี้



อาหาร และ การเลือกซื้ออาหาร สำหรับหนูแกสบี้ เพื่อเลือกสิ่งที่ดี สำหรับหนูแกสบี้ที่เรารัก


guinea_pig
  • การเลือกซื้ออาหารจำพวกอาหารสำเร็จรูป

    ควรจะเลือก อาหารที่มีคุณค่าทางทางสารอาหารที่พอแก่ความต้องการของหนุแกสบี้ครับ ไม่ควร

  • เลือกซื้ออาหารที่มีเชื่อรา หรือ ไม่สะอาดอาจจะ สักเกตได้จาก การเก็บรักษา เช่น ถุงอาหาร ถูกกัด

  • แทะ โดยสัตว์อื่นๆ หรือ ฉีกขาด อาหารที่ได้รับความชื้นหรืออาหารที่ ได้รับการเก็บไว้นาน จนเกิน

  • ไป

  • ถ้าเป็นอาหารจำพวกอาหารสด เช่น อาหารจำพวก หญ้า ควรล้างทำความสะอาดให้ดีก่อน ที่จะนำ

  • ไปให้ หนูแกสบี้ทาน เพราะว่า หญ้าที่ได้รับการเก็บมานั้นอาจจะมีเศษ สิ่งสกปรก ติดอยุ่ ไม่ว่าจะ

  • เป็น เศษ ดิน หรือ สารต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นหญ้าที่เราซื้อมาจาก ที่อื่น โดยที่เราไม่ได้เก็บเอง หรือ เก็บ

  • หญ้าในสถานที่ๆ อยู่ไกลบ้านของเรา

  • ไม่ควรเอาอาหารของ กระต่ายนั้นมาให้ แกสบี้ทาน เพราะว่าอาหารของกระต่ายนั้นมี สารอาหาร

  •  และ โภชนาการต่ำ

  • ผลไม้ต่างๆที่นำมาให้ ควรได้รับการล้างทำความสะอาด อย่างดีเสียก่อน เพราะว่า ผลไม้ส่วนใหญ่

  •  ได้รับการ ฉีดย่า ฆ่าแมลง ดังนั้นการทำความสะอาด ล้าง ก่อน จึงช่วยได้มาก เลยครับ

  • น้ำที่นำมาให้ หนูแกสบี้ ควรเป็นน้ำที่สะอาด ไม่มีสารเคมีเจือปน และควรหมั่นทำความสะอาด 

  • กระบอกน้ำ และ เปลี่ยนน้ำให้เจ้าหนุแกสบี้ใหม่ ทุกๆ 1-2 วัน

พืชที่เป็นอันตรายกับแกสบี้

1. ว่านหางจระเข้ ที่หลายๆคนใช้ทาเพื่อสมานแผล แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าว่านหางจระเข้าเนี่ยเป็นอันตรายกับ

หนูแกสบี้ เมื่อเจ้าตัวเล็กของเพื่อนแทะ ยางจะเข้าไปกัดช่องปาก และคันในทางเดินอาหาร เมื่อพบว่าหนู

แกสบี้ของเพื่อนๆแทะหรือกินเจ้าว่านหางจระเข้เข้าไป ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ ถ้าทันหมอจะล้างท้อง

ให้ แต่อยากบอกว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะตายสูงค่ะ

2. ผักบุ้งไทย ที่ขึ้นตามทุ่งอะค่ะ ที่มีก้านสีน้ำตาล ที่เค้ากินกับส้มตำ เนื่องจากผักบุ้งชนิดนี้มียางเยอะจึง

ไม่แนะนำให้แกสบี้กินค่ะ

3. มันแกว มันแกวมีส่วนที่เป็นพิษคือใบ และ เม็ดค่ะ เมื่อกินไปแล้วจะทำให้ระบบหายใจล้อเหลว และ

ตายได้ค่ะ

4. สาวน้อยประแป้ง เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกกันมาก แต่เพื่อนรู้ไหมค่ะว่า พืชชนิดนี้เป็นอันตรายกับหนูแกสบี้

ของเพื่อนๆ เมื่อหนูแกสบี้ของเพื่อนกัดเข้าไปจะทำให้ ช่วงปากทางเดินอาหารระคายเคือง ร้อนไหม้ การ

ล้างท้องไม่สามารถจำกัดพิษของสาวน้อยประแป้งออกได้ จึงนับว่าเป็นอันตรายมาก

5. มันสำปะหลังดิบ เนื่องจากมันสำปะหลังดิบมีสารประเภทไซยาไนต์ จึงห้ามกินดิบๆ

6. แพงพวย มีอยู่ทั่วไปในบ้านเรา แทบจะเป็นวัชพืชเลยทีเดียว แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก ทั้งที่ติดอยู่ใน

ต้นไม้มีพิษของเว็บต่างประเทศ

7. ต้นปรง ตรงยอดและเม็ดมีพิษรุนแรงทำให้ชักและตายได้

8. ต้นบอน เนื่องจากต้นบอนมียางที่เป็นพิษ ทำให้ระคายเคืองเยื่อบุช่องปากและลำคอ

9. ต้นพลูฉีก มีพิษประเภทเดียวกับต้นบอนค่ะ

10. ต้นโป๊ยเซียน ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังและบริเวณที่สัมผัส

11. กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักจำพวกนี้มีแก๊สเยอะค่ะ กินมากๆจะทำให้ท้องอืด

12. ตำลึง มีสรรพคุณเป็นยาระบาย อาจทำให้ท้องเสียได้ค่ะ


ที่มาของเนื้อหา

www.hamsteronline.com

www.cavyonline.com


อาหารแกสบี้



ทำความรู้จักกับ อาหารหนูแกสบี้กันครับ



อาหารต่างๆของหนูแกสบี้

อาหารคือ สิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น หนูแกสบี้ หรือว่า สัตว์อื่นๆ ซึ่งอาหาร เป็น ปัจจัยอย่างหนึ่งในการ เจริญเติบโต ของหนูแกสบี้ และอาหารที่ดี ก็สามารถช่วยให้ หนูแกสบี้ มีสุขภาพ ที่แข็งแรง สมบูรณ์



cavy-food4

อาหาร จำพวก อาหารสำเร็จรูป

อาหารจำพวกนี้เป็นอาหารเม็ดซึ่งโดยส่วนมากจะอยู่ในรูปของอาารเม็ดครับอาหารเหล่านี้มีขายอยู่หลาย ยี่ห้อทั้งของไทย – ของนอกผลิตในไทย และ ผลิตที่ต่างประเทศ ซึ่งเราควรเลือก ซื้ออาหาร ที่ดี มีคุณภาพ สะอาด และ ไม่ใช่อาหารที่ได้รับการเก็บไว้นานครับควรตรวจดูอาหาร ว่า มีเชื้อรา หรือ ไม่ เพราะว่า อาหาร จำพวกนี้ถ้าได้รับการเก็บรักษา ไม่ดีแล้วความชื้น อาจจะทำให้ อาหารนั้นเป็นเชื้อราได้ครับ

cavy-food2

ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว หนูแกสบี้เป็นสัตว์ ตระกูลเดียวกับกระต่าย คือ จะหากินหญ้าอ่อน สะเป็นส่วนใหญ่ ในธรรมชาติ ทั้งนี้ก็เพราะว่า หญ้าเป็นอาหารที่มี สารอาหารต่างๆ ที่ เป็นประโยชน์แก่หนุแกสบี้ อาหารที่เราซื้อมาให้นั้น เมื่อเปิด ถุงอาหารแล้ว ควรจะให้แกสบี้รับประทานให้หมด ภายในระยะเวลา 14 เดือนครับ เพราะว่า ถ้าเราเก็บไว้นานสารอาหร ก็จะลดน้อยลงไป และ อาจจะทำให้อาหารเสื่อมคุณภาพ ได้อีกด้วยครับ


guinea_pig

อาหารจำพวก พืช – ผัก

อาหารจำพวกผัก หญ้า อาจจะเป็น หญ้า แห้ง และ หญ้าสด อาหารจำพวกนี้ มีคุณค่า และ สารอาหารต่อ หนุแกสบี้เป็นอย่างมาก
ซึ่ง หญ้า สามารถช่วยในการขับถ่าย และ การย่อยอาหาร ได้ และ ส่วนหญ้าแห้ง ก็สามารถช่วยให้หนูแกสบี้ไม่ กัดกิน ขนตัวเองโดยจะ แทะ หรือว่า กินหญ้า แทน ครับ 
หญ้าสด ที่ให้ ควรจะเป็น หญ้าขน ครับ ทั้งนี้ก็เพราะว่า สามารถหาได้ง่าย และ มีสารอาหารที่พอเหมาะ กับเจ้าหนูแกสบี้ ซึ่งหญ้าที่เก็บมาได้ ควรที่จะแช่ น้ำ เปล่า หรือ น้ำทับทิม ทำความสะอาด และ ทำให้สะเด็ดน้ำ สะก่อนๆ ที่จะให้หนูแกสบี้ทาน เราควรให้อาหารจำพวกหญ้า อย่างสม่ำเสมอ ครับ สลับกับการให้ หญ้าแห้ง การให้ หญ้าที่ไม่สะอาด ก็อาจจะทำให้ หนูแกสบี้ท้องเสียได้

ดังนั้นการทำความสะอาดหญ้า ที่จะนำมาให้หนูแกสบี้ทาน ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งครับ

ข้อมูลจาก

:  www.hamsteronline.com

www.cavyonline.com

กะหล่ำปลีไม่ดีกับแกสบี้


More information about fruit and vegetables.
A few vegetables need to be given in moderation or just given as an occasional treat. Cabbage is quite a gassy vegetable and has been known to cause bloat in guinea pigs when fed in large quantities. Make sure any cabbage given is dark green. Broccoli, kale and cauliflower are also related to the cabbage family, so they need to be given in small doses too
อย่างที่เพื่อนๆทราบกันดีนะค่ะว่า  กระหล่ำปลีมีแก๊สเยอะ ถ้าให้หนูแกสบี้ในปริมาณมากๆ ก็จะทำให้เป็นโรคลำไส้ใหญ่บวมแก๊ส ให้แน่ใจว่า ถ้าจะให้ผักในตระกลูกระหล่ำปลีก็ควรจะเป็นสีเขียวเข้ม
พวกบล็อกโคลี  ผักเคล และ ดอกกระหล่ำ(กระหล่ำดอก) ล้วนอยู่ในตระกลู กระหล่ำทั้งสิ้น
ถ้าจะให้ก็ต้องให้ในปริมาณที่น้อยๆเหมือนกัน


Panglumm
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.jackiesguineapiggies.com/fruitandveg.html

การป้อนยาหนูแกสบี้


จากที่เล่ามา จะเป็นเหมือนกันหมด แทบจะทุกบ้านค่ะ 

ที่พอรู้ว่า ในหลอดนั้นเป็นยา เท่านั้นละค่ะเจ้าตัวก็ไม่อยากจะเห็นแหม้แต่สลิงค์ ที่ป้อนแล้วละค่ะ

(อันนี้เค้าเรียนรู้เร็วเลยค่ะ)


วิธีก็ ง่ายมากเลยค่ะ ไม่ต้อง ขู่เข็น เลอะเทอะ หรือบีบบังคับมากมายนะค่ะ

ถ้าเจ้าตัวเล็ก ยอมทานปกติ ก็ป้อน แบบตามในรูปนี้ค่ะ

คือ จับให้อยู่ในแนว45องศา เพื่อป้องกันการไหลกลับของยา เท่านี้ค่ะ สำหรับลูกๆที่ยอมให้ป้อน


ส่วนเจ้าตัวเล็กที่ไม่ยอมก็ ทำตามนี้เลยค่ะ
1. นำผ้า มาห่อตัวแบบนี้นะค่ะ(ให้มืออยู่ในผ้าค่ะ จะได้ไม่ปัดหลอดยาค่ะ)

 

2. ใช้มือจับด้านหลังเอาไว้อย่าให้ผ้าห่อหลุด 
(หรือจะนั่งชันเข่าแล้วใช้ขาด้านบน ล็อกเค้าไว้ พร้อมผ้าก็ได้ค่ะแล้วแต่ถนัด แต่มือจะใช้ดีกว่าเร็วกว่าเจ้าตัวเล็กไม่เครียดด้วยค่ะ)

 

3. ตั้งตัวเค้าให้อยู่ในระดับตรง 90องศา(หรือจะ โน้มตัวมาด้านหน้านิดหน่อยก็ได้ค่ะ) 
ห้ามนอนหงายนะค่ะ สำลักได้ค่ะ

4. เวลาป้อนก็ป้อนเข้ากระพุ้งแก้มค่ะ ป้องกันการสำลักหรือยาเข้าปอด
(อาจจะรุ่นแรงถ้าป้อนผิดวิธี โดยการกรอกลงตรงๆในช่องปาก อันนั้นไม่ควรทำนะค่ะ สำหรับของเหลวทุกชนิด)

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ยากเลยนะค่ะ สำหรับลูกรักที่ไม่ยอมกินยา หายไว้ๆนะค่ะ

*มีคำถามสงสัยเกี่ยวกับแกสบี้ โพสต์ไว้ได้เลยนะคะ แอดมินจะเข้ามาแก้ข้อสงสัยให้ค่ะ*

โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจของหนูแกสบี้


อาการที่ปกติและผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ

1.จาม (Sneezing)
การ จามพบได้เป็นปกติในหนูแกสบี้ โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่หนูสัมผัสกับอาหารที่มีลักษณะเป็นฝุ่นและสัมผัสกับฟาง ที่ใช้รองนอนหรือทิ้งไว้ให้กินเล่น โดยการจามจะเป็นปฎิกิริยาการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมของร่างกายที่จะผ่านเข้า จมูกไปสู่หลอดลม แต่ในกรณีที่พบว่าหนูมีอาการจามมากกว่าปกติและพบมีน้ำมูกข้นหรือมีเลือดปน นั่นอาจบ่งบอกถึงอาการที่ผิดปกติและค่อนข้างอันตราย

2.มีเลือดออกจากจมูก (Epistaxis)
การ มีเลือดออกจากจมูก เกิดได้หลายสาเหตุ โดยอาจจะเกิดจากการขาด วิตามิน K โดยเฉพาะในอาหารเม็ดที่ผลิตมานานและในฟางหรือหญ้าที่คุณภาพต่ำ ซึ่งแหล่งวิตามิน K ที่สำคัญนั้นมาจาก พืชผักใบเขียว
อีกสาเหตุที่พบได้เกิดจากการที่หนูตกจากที่สูงหรือถูกกระแทกอย่างแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ศรีษะจนทำให้เส้นเลือดฝอยแตก


3.ไอ (Coughing)
คล้ายกับการจามซึ่งพบได้บ้างเป็นบางโอกาส โดยเป็นการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอมต่างๆ

4.การหายใจเสียงดัง (Snuffles)
พบ ได้ในหนูแกสบี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหนูที่มีจมูกสั้น และมักจะได้ยินเสียงเมื่อ หายใจ ปัญหานี้มักจะพบบ่อยในลูกหนูที่เกิดใหม่ และ ยังเด็กอยู่ และจะเป็นสาเหตุโน้มนำให้เกิดโรคทางเดินหายใจตามมาในภายหลัง สาเหตุนี้เทียบได้กับสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เช่นใน พันธุ์ ชิห็สุ ปั๊ก บลูด๊อก และอื่นๆ

โรคทางเดินหายใจที่พบได้บ่อยในหนูแกสบี้
1.ปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterail Pneumonia) 
ปอด อักเสบหรือปอดบวมที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคที่พบเจอได้เป็นประจำในสัตว์จำพวกหนูแกสบี้และกระต่าย ซึ่งจะพบได้บ่อยขึ้นในหนูที่เลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่ชื้นและอับ โดยเฉพาะหนูแกสบี้จะเป็นสัตว์ชนิดที่เมื่อได้รับเชื้อ แบคทีเรีย Bordetella bronchiseptica , Streptococcus pneumoniea จะแสดงอาการออกมาได้อย่างง่ายและรุนแรง โดยเชื้อนี้สามารถเจอได้บ่อยใน กระต่าย สุนัข และสัตว์ในตระกูลลิง (nonhuman primate) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ไว้รวมกัน
เชื้อเหล่านี้จะแฝง อยู่ในร่างกายสัตว์แต่อาจจะไม่แสดงอาการ จนกว่าหนูเกิดความเครียดและอ่อนแอลง จะทำเชื้อเหล่านี้เกิดเจริญเติบมากกว่าปกติและก่อให้เกิดอาการของโรคได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนูที่มีอายุน้อย

การติดต่อ โดยทั่วไปมี 2 วิธีหลักๆดังนี้
1. ติดต่อกันโดยตรงระหว่างหนูตัวหนึ่งกับอีกตัวหนึ่ง เช่นการอยู่ด้วยกันแล้วมีจามหรือไอ
2. จากการใช้สิ่งของร่วมกัน 
ใน ความเป็นจริงแล้วยังมีเชื้อแบคทีเรียอีกหลายชนิดที่ก่อโรคแต่อาจจะไม่รุนแรง เท่าแบคทีเรียที่กล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ซึ่งบางชนิดสามารถเป็นและหายเองได้ เช่น Klebsiela pneumonia , Pasturella spp.
อาการทั่วไปที่พอจะ สังเกตุพบ ได้คือ ซึม เบื่ออาหาร มีไข้ (ส่วนใหญ่แล้วเวลาที่ไม่สบายก็จะพบอาการอย่างนี้) มีน้ำมูก ขี้ตา หายใจลำบาก และถ้าเกิดจากเชื้อ Bordetella spp. ก็มักจะทำให้ มีน้ำมูกข้น และก็จะเกิดปอดและหลอดลมอักเสบตามมา โดยเฉพาะที่ปอดจะทำให้ปอดแน่นขึ้น โดยอาจจะมีเซลเม็ดเลือดขาวหรือน้ำเข้ามาแทรกตามเนื้อปอด (ซึ่งจะทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนจะน้อยลง ) และบางทีเมื่อเป็นมากอาจจะทำให้มีสิ่งคัดหลั่งต่างๆไปอยู่ที่บริเวณแก้วหู ได้ด้วย(Tympanic Bulla) ส่วน Streptococcus spp. นอกจากจะทำให้เกิดโรคอย่างที่กล่าวมาแล้ว ยังทำให้เกิดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ(pericarditis) รวมทั้งก่อให้เกิดเยื่อหุ้มปอดอักเสบแบบมีหนองด้วย (fibrinopurulent pluritis)
การวินิจฉัยโรค ส่วนใหญ่แล้วในทางคลินิก มักจะทำการเพาะเชื้อแบคทีเรีย จากสิ่งคัดหลั่งที่ออกมา หรือทำการล้างหลอดลม (trachal larvage)เพื่อทำการเพาะเชื้อและหายาที่ตอบสนองต่อเชื้อ. หรือว่าอาจจะทำการตรวจหา แอนติบอดี้ จากวิธีทางห้องปฎิบัติการ ( ELISA ,indirect immunofluorescenc) การ x-ray อาจจะพบว่าบริเวณปอดมีการทึบขึ้น รวมถึงบริเวณแก้วหูด้วย
วิธีการรักษาและป้องกัน ส่วนใหญ่แล้วจะต้องได้รับยาปฎิชีวนะ(อาจจะกินฉีดหรือว่าให้ทางการดม (nembulize) ) ร่วมกับเสริม วิตามิน C และต้องให้หนูได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่ทำให้เกิดความเครียด เปลี่ยนถาดรองกรงทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยง กลิ่นแอมโมเนีย จากปัสสาวะ และถ้าสามารถแยกหนูออกจาก กระต่ายหรือสุนัขก็จะเป็นการลดความเสี่ยงของโรคนี้ไปได้


2.ปอดอักเสบที่เกิดจากไวรัส(Viral Pneumonia )
ส่วนใหญ่แล้ว หนูที่ป่วยจากโรคไวรัสนี้มักจะไม่ค่อยพบบ่อยเท่าอย่างแรกดังนั้นอัตราการ ป่วยจึงต่ำแต่ถ้าป่วยแล้วมักจะมีอาการอย่างเฉียบพลันและโอกาสตายสูงมาก สาเหตุโน้มนำแล้วส่วนใหญ่มักจะเกิดจากความเครียด วิธีการวินิจฉัย เรามักจะวินิจฉัยได้ต่อเมื่อหนูเสียชีวิตแล้วทำการพิสูจน์ซาก โดยพบว่ามีการลอกหลุดของเยื่อบุหลอดลมอย่างรุนแรง และถ้ามีการนำชิ้นเนื้อไปทำสไลด์(histopath)มักจะพบว่ามีความผิดปกติของ เซลล์(Basophilic intranuclear inclusions)

3.การเกิดเนื้องอกหรือมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ( Pulmonary Neoplasia)
เนื้อ งอกที่พบในระบบทางเดินหายใจสามารถพบได้ในหนูที่อายุมาก และส่วนใหญ่มักเป็นชนิด adenoma ซึ่งในบางกรณีอาจจะทำให้การวินิจฉัยเป็นไปด้วยความลำบากและอาจจะสับสนกับ โรค ปอด อื่นๆได้
Reference 
Quesenberry K.E. 1994. Guinea Pigs. The Veterinary clinics of North America . Philadelphia .
W.B. Saunders. :74-76
Quesenberry K.E. ,Carpenter J.W., 2004. Disease Problems of Guinea Pigs. Ferrets,Rabbits,and Rodents, 2nd ED. W.B. :245-252
Richardson V.C.G. 1997. The Respiratory system. Diseases of Domestic Guinea Pigs. Cambridge.
Blackwell. : 45-48


น.สพ. เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล
สัตวแพทย์ประจำสัตวแพทย์ ๔ โพลีคลินิก โดยเฉพาะ Exotic pets
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.vet4polyclinic.com http://www.bunnyandcavy.com

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การทำ Floor Time ให้หนูแกสบี้


Floor Time (เวลาวิ่งเล่นที่พื้นค่ะ)

หนูแกสบี้ของคุณต้องการ การออกกำลังกาย และ กระตุ้นทางจิตใจ ที่จะอยู่อย่างมีความสุขและแข็งแรง
(การวางบนตัก ไม่นับว่าเป็นfloor time การวางบนตักนั้นดีสำหรับเจ้าของและหนูแกสบี้ แต่มันไม่ได้ทำให้หนูแกสบี้ออกกำลังมากขึ้นและเวลาเล่นที่เค้าต้องการ)

ดังนั้น เรามาทำ Floor Time ให้ ลูกๆของเรากันดีกว่าค่ะ

การทำ ที่วิ่งเล่นให้ลูก 

1. เริ่มจากพื้น ลักษณะของพื้นบ้าน ถ้าเป็นพรม(ต้องเอาผ้าที่มีแผ่นกันน้ำรอง เพราะน้องหนูอาจจะขับถ่ายได้) หรือ เป็น พื่นที่ลื่นเกินไปจนวิ่งไม่ได้(หาผ้าห่มหรือผ้าขนหนูผืนใหญ่ๆมาต่อๆกันหรือจะเป็นหนังสือพิมพ์ ก็ไม่ว่ากัน)

2. ต้องทำบรรยากาศให้เหมือนในกรงมากที่สุด เอาแผ่นเขียวๆรองพื้นกรงออกมาวางด้วย เอาที่หลบวางไว้แต่ตะแคลง{เพราะลูกแป้งเข้าไปแล้วไม่ออกมาอีกเลย คิคิ} หาเก้าอี้เล็กๆ ไปวางด้วยก็ดี เค้าจะได้ทำเป็นที่หลบ(แต่ซ่อนไม่ได้) เอาถ้วยอาหารออกมาให้หมดเลยจ๊ะ เอามาวางไว้
3. เอาขวดน้ำ ออกมา แขวนไว้ อย่างนี้นะค่ะ

4. เอาพวกผัก อาหารโปรด ไม่ว่าจะเป็นหญ้า หรืออาหารเม็ดก็ได้ สมควรจะป็นอาหารเฉพาะของหนูแกสบี้ เอามาวางไว้เป็นจุดๆ ผักฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วโปรยลงไปก็ได้ บนพื้นที่เตรียมไว้(ลูกแป้งชอบ เพลสลี่ กะ ผักกาดหวาน แบบว่าวิ่งหากินใหญ่เลย พอกินหมดร้องวิ่งหาอีก น่ารักดี)

                      

แต่เค้าวิ่ง หยุดกิน (คือ วิ่ง หยุด วิ่ง หยุด)ก็ไม่เป็นไรนะค่ะ ครั้งหน้าเค้าก็จะมาวิ่งของเค้าเอง อาหารล่อ ได้ผลค่ะ
ที่กล่าวไปทั้งหมด อาจจะเป็นแบบติดตั้งถาวร หรือ ชั่วคราวก็ได้ค่ะ

ควรให้หนูแกสบี้ ออกมาวิ่งเล่นทุกวัน แต่ถ้าไม่มีเวลาหวังถัดไปก็ได้ค่ะ สมควรจะให้อย่างน้อย30นาที แต่ถ้ามีเวลาก็ให้ได้ 1ชม.หรือมากกว่านั้น

เด็กๆจะ ป็อบคอร์น ตลอดเวลาเค้าออกมาวิ่ง เค้ามีความสุขค่ะ อยากให้ลูกเพื่อนได้ออกกำลังกายแล้วสุขภาพดีกันทุกคนเลยนะค่ะ เอาข้อความมาแบ่งปันค่ะ

หรือ เพียงพิมพ์ คำว่า Floor time ใน google เท่านั้น ข้อมูลมีให้อ่านเยอะเยะเลยค่ะ
Panglumm

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.guineapigcages.com/floortime.htm

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ทำงัยดีเมื่อแม่หนูจะคลอดลูก??


... แม่จ๋าหนูจะคลอดแล้วจ้า ...

ทุกคนที่เลี้ยงหนูแกสบี้ เราต่างก้ออยากเห็นหน้าหลานๆของเรา
เมื่อวันเวลาเลยผ่านไป ลูกชายและลูกสาว กำลังจะมีสมาชิกตัวน้อยๆ
ไว้ให้เราชื่นชม เราลองมาดูว่าเราควรเตรียมอะไรไว้บ้าง เผื่อเหตุการณ์
ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับครอบตัวของเรา เช่น แม่หนูเลี้ยงลูกหนูไม่เป็น
แม่หนูคลอดหนูก่อนกำหนด ลองมาดูของที่เราต้องเตรียมเผื่อไว้นะค่ะ...
สิ่งที่ต้องเตรียมคือ
 1. ถุงมือยาง  
2. สำลีแบบม้วนๆ หรือ แบบแผ่นๆ 

3. กรรไกร 
 4.อาการตื่นเต้น ( ซ้อมไว้ก่อนก้อได้นะค่ะ เผื่อเจอจิงๆจะ

ไม่ตื่นเต้นมากเกินไป 555 ) 

เวลาเค้าคลอดบางทีเราไม่รู้ด้วยซ้ำ 
 ก้อแค่ทำทุกอย่างให้ปกติ อาหารเม็ดหญ้าแห้ง ( ควรเป็นหญ้า
อัลฟาฟ่าค่ะ ) น้ำใส่ขวดให้ซัก 2 ขวด แค่นั้นเองค่ะ ... 

ถ้าบังเอิญเห็นเค้าคลอดลูก ไม่ต้องตื่นเต้นหรือไปยุ่งกับเค้านะค่ะ
เดี๋ยวเค้าเครียด ปล่อยเค้า เดี๋ยวเค้าก้อจะกัดสายสะดือ , กินรก ,

เลียตัวลูกเค้าให้แห้งเอง เว้นแต่แม่หนูอายุยังน้อย หรือ 

แม่หนูคลอดก่อนกำหนด เราควรช่วยเค้า ไปเอาของข้า 1,2 มาใช้ 
 ข้อ 3ไม่ต้องนะค่ะ มันจะมาเองโดยไม่ต้องเชิญ ... ^_^
ก้อต้มน้ำในกา  แล้วใส่ถุงมือ  พอน้ำอุ่นๆก้อเทน้ำใส่อะไรก้อได้

ขันเขินก้อว่ากันไปแล้วเอาสำลีฉีกเป็นแผ่นๆ แช่น้ำแล้วบีบให้พอ 

มาดๆ เช็ดตามตัว แล้วเอาไดร์เป่าให้แห้งแล้วค่อยเอาไปคืนแม่มัน
 แต่...ถ้าเราทำขนาดนี้แม่หนูบางตัวอาจไม่เลี้ยงลูก ( บางตัวนะค่ะ
ไม่ใช้ทุกตัว ) ถ้าสายสะดือลูกหนูยังไม่ขาด ก้อเอากรรไกรมาตัด

( ไม่ต้องตัดให้สั้นนะค่ะ )แค่นั้นเองค่ะ ... ลองหาซื้อนมแมวมาติดไว้
ด้วยก้อดีนะค่ะเผื่อแม่หนูไม่ให้ลูกหนูกินนมเราจะได้ชง 

แล้วป้อนให้ลูกหนู อย่าลืมซื้อที่ป้อนนมไว้ด้วยนะค่ะ .... 
ปล. ที่พูดมาแค่บอกว่าซื้อทิ้งๆเอาไว้นะค่ะ ของแบบนี้ใครจะรู้

ว่าจะเกิดกับครอบรัวของเรารึป่าวเตรียมไว้ก้อไม่เสียหลาย

 แต่เปอร์เซ็นที่พูดว่าแม่หนูเลี้ยงลูกไม่เป็นมันมีน้อยมากๆ

ไม่ต้องตื่นเต้นเกินไปนะค่ะ...แค่เลี้ยงในแบบฉบับของเรา

 ใช้ใจและความรู้สึกของเรา แค่นั้นเองค่ะ ...
มีความสุขกับการมีสมาชิกเพิ่มนะค่ะ .... ^_^  


( รกคือก้อนเลือดสีแดงๆ แม่หนูจะกินเองเพื่อกระตุ้นน้ำนม และ

สุขภาพของแม่หนูค่ะ )

แกสบี้จำเป็นต้องมีเพื่อนไหม???


จำเป็นมั้ยที่ลูกต้องมีเพื่อน ?


นั่นสิน๊า .... สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวพี่ว่าไม่จำเป็นค่ะ

ถ้าน้องคิดว่าน้องเลี้ยงเค้าไว้เป็นเพื่อน ไม่ได้คิดจะเลี้ยง

ไว้เยอะๆ หรือเพาะขาย และมีพื้นที่ในการเลี้ยงดูจำกัด

ตอนที่พี่ยังไม่เปิดร้าน พี่เลี้ยงหนมชั้นตัวเดียว ตอนนั้น

มีความสุขมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

หนมชั้นจะติดพี่มากถ้าออกไปข้างนอกก้อต้องเอาไปด้วย

หนมชั้นกินทุกอย่าง ถ้าเห็นพี่กินหนมชั้นได้กลิ่นก้อจะวิ่งมาหา

จะปีนมานั่งบนตัก แต่ถ้าวันไหนไปข้างนอกแล้วไม่พาเค้าไปด้วย

จะเกิดการงอนทันที ถ้าเห็นว่าพี่แต่งตัวเค้าจะกระโดดๆ( อาการป๊อบคอน )

ประมาณว่า " ไชโยๆจะได้ไปเที่ยวแล้ว " แต่ก้อมีเป็นบางครั้งที่ไม่ได้

เอาหนมชั้นไปด้วย แต่ส่วนใหญ่จะไปด้วยเสมอ ยิ่งถ้าเห็นจับตะกร้า 

หนมชั้นจะวิ่งเข้าตะกร้าเองเลย เป็นแบบนี้จนหนมชั้นอายุ 8-9 เดือนมั้ง

พี่ก้อซื้อเปียกปูนมาให้เป็นแฟนหนมชั้น พอเค้ามีแฟนเค้าลืมพี่ทันทีเลย

เรียกก้อไม่สนใจ นอนเฝ้าแต่แฟน ปกติซื้ออะไรมาได้กลิ่นก้อจะวิ่งมาหา

แต่พอมีแฟนต้องเอาไปถวายให้ถึงปาก หยิบตะกร้าก้อไม่สนใจ

จะอุ้มทีก้อต้องบังคับขืนใจ ....



นี่แหละคือประสบการณ์ของพี่....

ความจิงพี่ว่าน้องๆลองถามตัวน้องเองดีกว่าว่า....ใครกันแน่ที่อยากได้สมาชิกเพิ่ม
ตัวน้องเอง หรือ ลูกๆที่น้องเลี้ยงเค้าอยู่....
                                           
                                                                                     

การตัดเล็บหนูแกสบี้


มาตัดเล็บให้แกสบี้กันเุถอะ

แม่จ๋า....ตัดเล็บให้หนูหน่อย
นี่เป็นคำพูดที่แกสบี้อยากจะบอกเรา ทุกครั้งที่เล็บเค้ายาวเกินไป
แกสบี้มักจะใช้มือไว้ถูจมูกเวลาที่เค้าคัน หรือ เวลาที่เค้าแต่งหล่อ แต่งสวย 
วันนี้พี่พร้าวมีวิธีการตัดเล็บในแบบฉบับของ cavykids มาฝากค่ะ 
พี่พร้าวจะบอกว่ามันเป็นการลองผิดลองถูกของเราเอง
ไม่มีใครตัดเล็บให้แกสบี้เป็นหรอกค่ะ แต่พอเราเลี้ยง เราลอง
เราก็จะตัดเป็นพูดง่ายๆว่าเราต้องลองเองละจ๊ะ(^o^)
มีคำถามมากมายสำหรับ คนที่พึ่งเลี้ยงแกสบี้
เช่น พึ่งไปรับน้องเค้ามา นู๋ต้องอาบน้ำให้เค้าจะตัดเล็บให้เค้ายังไงค่ะ
ควรตัดเล็บให้เค้าตอนไหนค่ะ
ง่ายมากค่ะคุณน้องขา ถ้าน้องๆทำตามวิธีของพี่ พี่ขอแนะนำว่าน้องๆ
ควรตัดเล็บตอนที่เราอาบน้ำให้เค้าเสร็จใหม่ๆค่ะเพราะเล็บเค้าจะนิ่ม
ตัดง่าย และเค้าก้อจะไม่ดิ้น(เพราะเค้าหนาว..อิอิ) ก่อนตัดควร
บอกกับเค้านิดนึงว่า " นู๋จ๋าแม่ขอตัดเล็บนิดนึงน๊ะ "
เราก็เริ่มตัดเล็บเค้าเลยค่ะ ซึ่งการตัดเล็บแล้วแต่เทคนิคของใคร
ของมัน จริงๆมันมีวิธีตัดเล็บที่ถูกต้อง แต่พอเรามาตัดจริงๆ
มันก็อาจจะใช้ไม่ได้ผลค่ะ พี่ตัดแค่ปลายเล็บเค้าเอง 
คือ เวลาเราอาบน้ำให้เค้าทุกอาทิตย์ เราก็ต้องตัดเล็บให้เค้า
ทุกอาทิตย์เช่นกัน เพราะฉะนั้นตัดแค่ปลายๆเล็บก็พอ
เพราะถ้าเราตัดเล็บเค้าลึกเกินไป อาจโดนเนื้อของเค้า
และที่สำคัญถ้าเราตัดลึกจนถึงเนื้อเลือดเค้าก็จะออก
คิดดูนะค่ะว่าเค้าจะเจ็บมากแค่ไหน และพอเค้าเจ็บเค้าก็จะดิ้นและ
เค้าก็จะไม่อยากให้เราตัดเล็บเค้าอีก ก็เหมือนเราละค่ะ
แล้วเราตัดเล็บเข้าเนื้อ เราเจ็บยังไงเค้าก็เจ็บแบบนั่นเลยค่ะ
ค่อยตัดใจเย็นๆ ดูดีๆก้อตัด ให้พึงสังวรไว้ว่า
 "เค้าก้อเจ็บเปนเหมือนกับเรา" พี่ว่าบางทีทฤษฎี
กับ ปฏิบัติมันก็ไม่เหมือนกันหรอกนะค่ะ เราต้องลองเอง......
ปล. ถ้าเราตัดเล็บให้เค้าแล้วเกิดตัดลึกจนเลือดออก
ให้ใช้เบตาดีนทานะค่ะ
เพิ่มเติมเรื่อง
กรรไกรตัดเล็บมีทั่วไปมีขายตามตลาด.....
          
ควรแยกของเค้าไว้ต่างหาก อย่าใช้รวมกันกับเราหรือสัตว์อื่นนะค่ะ
นิ้วมือมีข้างละ นิ้ว
นิ้วเท้ามีข้างละ นิ้ว


อ๋อ....มีอีกเรื่อง แกสบี้บางตัวอาจมีตุ่มขึ้นตามตัว  ซึ่งตุ่มเเข็งๆ
ที่ว่าเป็นฝีค่ะ พอลูกรักเป็น น้องๆบางคนก็ตกใจกลัวว่าลูกรัก
จะเป็นอะไรไปบางตัวอาจมีฝีที่คางที่ท้อง ที่หูหรือที่อื่นๆ
ไม่ต้องตกใจนะค่ะ พี่พร้าวมีวิธีรักษาแบบประหยัดและง่ายๆมาบอก
วิธีง่ายๆค่ะให้ใช้เบตาดีนทาจนกว่าฝีจะยุบ แต่เบตาดีนจะใช้ได้ผล
ก็ต่อเมื่อ ฝียังเป็นตุ่มเล็กๆหรือไม่ก็ยังไม่ใหญ่มาก
ขอย้ำนะค่ะว่า.....ฝีต้องไม่ใหญ่มาก (ฝีที่เห็นเหมือนกับฝีของคนค่ะ)
แต่ถ้าฝีเกิดเป็นเม็ดใหญ่บางคนใช้เข็มลนไฟแล้วจิ้มและบีบหนองออก
พี่ว่าถ้าต้องทำขนาดนั้น พาไปหาคุณหมอเถอะ
สงสารลูก ....ลองสังเกตุดูนะค่ะ
แกสบี้ไม่ได้ เลี้ยงยากอย่างที่เราคิดค่ะ

วิตามินซีกับแกสบี้


วิตามินซี (Vitamin C)
เป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับสัตว์ฟันแทะโดยทั่วไปทุกชนิด แต่มีสัตว์ตระกูลนี้บางชนิดที่มีความต้องการวิตามินซีสูงกว่าเพื่อนเป็น พิเศษนั้นก็คือ หนูแกสบี้หรือหนูเควี่ หรือหนูตะเภา

   

วิตามินซี เป็นวิตามินที่พบในผักพืชสีเขียวอยู่แล้ว มันสามารถละลายน้ำได้ แต่ก็มีจุดอ่อนคือมักไม่คงตัวต่อแสงและความร้อน จึงสลายตัวเร็ว วิตามินซีมีส่วนสำคัญเกี่ยวข้องกับกรณีการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และปรสิตบนผิวหนังของหนูแกสบี้ นอกจากนี้ยังพบว่าวิตามินซีมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของหนูอีกด้วย ในสภาวะปกติหนูแกสบี้จะใช้วิตามินในอาหารวันละ 25มิลลิกรัม แต่ถ้าอยู่ในสภาวะตั้งท้อง มันจะต้องการเพิ่มเป็น 30-40 มิลลิกรัม 


ฉะนั้นเมื่อแกสบี้ได้รับวิตามินซีน้อยกว่าที่ควรด้วยสาเหตุต่างๆ แต่ที่สำคัญคือการให้กินอาหารสำเร็จรูปของกระต่าย ซึ่งมีปริมาณวิตามินต่ำกว่าที่แกสบี้ต้องการหรือแม้แต่ให้กินอาหารสำเร็จรูป สำหรับแกสบี้ก็ตามแต่ เป็นอาหารเก่าหมดอายุ ทำให้วิตามินซีถูกสลายไปหมดแล้ว หรือแกสบี้ที่ป่วยไม่กินอาหารนานๆ เข้า จะช่วยเพิ่มด้วยอาหารขาดวิตามินซีก็ได้ ผลก็คือแกสบี้จะป่วยด้วยกลุ่มอาหารขาดวิตามินซี โดยจะแสดงออกให้เห็นดังนี้ คือ
  • ขนหยาบ
  • ไม่อยากอาหาร
  • อาการหดหู่ 
  • ผิวหนังเป็นสะเก็ด โดยเฉพาะที่ใบหู แต่ถ้าเป็นมากจะเกิดสะเก็ดบนผิวทั้งตัวร่วมกับจุดผื่นแดงหรือจุดเลือดออก

  • น้ำหนักลด
  • ข้อต่อต่างๆในร่างกายจะ บวม เดินได้ลำบาก
  • มี สุขภาพฟันและกระดูกที่แย่มาก และจะมีอาการเจ็บปวดในปาก
  • เกิดเลือดคั่งบนผิวก็ได้
  • มีน้ำมูก
  • เหงือก(ในช่องปาก)เลือดออก
  • มีอาการติดเชื้อ
  • อาการชัก
  • เสียชีวิต 

ดังนั้น การป้องกันแก้ไขที่เจ้าของแกสบี้ทำได้เองโดยปรับเปลี่ยนอาหารให้ถูกต้อง เช่น เพิ่มผักสดใบสีเขียว ให้อาหารสำเร็จรูปจำเพาะชนิดที่ไม่หมดอายุ และเก็บอย่างถูกวิธี ตลอดจนเสริมวิตามินซีในน้ำและอาหารด้วยขนาด 50 ถึง 100 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1กิโลกรัมต่อวัน ก็จะช่วยป้องกันหรือเยียวยาอาการขาดวิตามินซีได้ จำไว้ว่าแกสบี้จำเป็นต้องได้รับวิตามินสูงค่ะ...



วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ขวัญของหนูแกสบี้

ขวัญของหนูแกสบี้
ขวัญก็คือ ขนที่ขึ้นเวียนเป็นรูปทรงก้นหอย เกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่แล้วแต่สายพันธุ์และ พ่อแม่หนูค่ะ หนูแกสบี้ มีหลายพันธุ์ค่ะ ที่มีขวัญ (เอาแค่ ยกตัวอย่างนะค่ะ จะได้ดูง่ายๆ) เช่น

หนูแกสบี้พีรูเวียน(ขนยาว ขวัญที่ก้น2-4ขวัญ ขนย้อนมาด้านหน้า) 

  

โตขึ้นก็จะยาวไปเป็นแบบนี้ค่ะ


หนูแกสบี้โคโรเน็ต(ขนยาว ขวัญหัว1ขวัญ ขนยาวไปด้านหลัง)


โตขึ้นก็จะยาวไปเป็นแบบนี้ค่ะ



หนูแกสบี้ Abyssinian (ขนสั้น ยาวประมาณ4เซนติเมตร ขวัญทั่วตัว เป็นพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด ในหนูแกสบี้ คล้ายหนูขวัญแต่ไม่ใช่นะค่ะ) แต่ในประเทศไทยไม่ค่อยนิยมเลี้ยง เพราะลักษณคล้ายหนูขวัญซะมากกว่า



หนูขวัญ (ขวัญทั่วตัว ขนยาวบ้าง ไม่ยาวบ้าง ขึ้นอยู่กับพ่อและแม่ค่ะ)



ส่วน หนูแกสบี้ซิลกี้ (ขนยาว ไม่มีขวัญ ขนยาวไปด้านหลัง)


โตขึ้นก็จะยาวไปเป็นแบบนี้ค่ะ

ขอบคุณรูปภาพ พีรูเวียน โคโรเน็ต ซิลกี้ จาก พี่นก Bunnyandcavy นะค่ะ
รูปภาพ Abyssinian จาก gasbyclubz ค่ะ
รูปภาพ หนูขวัญ จาก เรื่องเล่า "เพื่อนๆ รู้จักคำว่า หนูขวัญ มากแค่ไหน " ค่ะ

Panglumm

ฝึกแกสบี้อึ ฉี่ให้เป็นที่เป็นทาง


การฝึกแกสบี้อึ ฉี่ให้เป็นที่เป็นทาง
ในฐานะของคนที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เลี้ยงแบบลูก(แบบปล่อย)

เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ต้องมีปัญหาเรื่อง อึ , ฉี่ ของลูกๆ
พี่มองว่ามันปวดใจนะ ที่เราต้องขังลูกๆของเราเอาไว้ในกรงตลอด
ทั้งที่เค้าก็มีขา มีจิตใจ น่าจะปล่อยให้เค้าออกมาวิ่งอย่างสบายอุรา
และแล้วพี่ก็ทำสำเร็จ...

  

น้องจะเลี้ยงแบบปล่อยใช่มั้ย? ....ถ้าใช่ฟังทางนี้...อิอิ
(ถึงแม้จะเลี้ยงมาได้ปีกว่าๆ แต่ก้อพอจะรู้บ้างเพราะเลี้ยงแบบปล่อย )
เรื่องฉี่ฝึกได้ค่ะ แต่เรื่องอึคงยาก ถ้าเราจะฝึกเค้าต้องขังเค้าไว้ก่อนซัก 1เดือน
หลังจากนั้นก็ลองปล่อยให้เป็นเวลา วันละกี่ครั้งก็แล้วแต่คนเลี้ยง
ปล่อยครั้งละไม่เกิน 30 นาที ( หรือน้อยกว่านั้น )
ควรปล่อยก่อนให้อาหารทุกครั้ง และเวลาให้อะไรเค้ากินทุกครั้ง
ควรให้ในกรง และ ควรมีวิธีบอกเค้าให้รู้ว่าถึงเวลาให้อาหารแล้วนะ
เช่น เสียงถุงหญ้า เสียงเปิดตู้เย็น เสียงกระปุกอาหาร เป็นต้น 
ทำแบบนี้ทุกวันอาจต้องใช้เวลา แต่มันคือการสร้างความจำให้เค้า
พอรู้สึกว่าเค้าเริ่มจำได้ ทีนี้ก้อลองเลื่อนเวลาปล่อยให้นานขึ้น
ลองเอาไปฝึกดูนะค่ะ....รับประกันว่าได้ผลจ๊ะ
ถ้าหากเราใส่ใจ และ ดูแลเค้าเป็นอย่างดี อยู่ที่เราค่ะ..
ให้พึงคิดไว้เสมอว่า....เราเลี้ยงเค้าเพราะอะไร ?
จงเลี้ยงเพราะรัก...อย่าเลี้ยงเพราะอยากจะเลี้ยง
อย่าเลี้ยงเพียงเพราะเห็นว่าเค้าน่ารัก .... 
เพราะถ้าเค้าได้มาอยู่กับเรา นั้นหมายถึงว่าเค้าจะรักเราที่สุด
ทั้งที่เค้าไม่รู้หรอกว่า ..... เราจะรักเค้าได้ครึ่งของเค้าหรือไม่

พี่พร้าว

วันแรกที่นำแกสบี้เข้าบ้าน


วันแรกที่พาเด็กๆเข้าบ้าน  
แน่ละคงตื่นเต้นทั้งคนเลี้ยง และสัตว์เลี้ยง(พี่ก็เคย...หุหุ) คนเลี้ยงทุกคนต้องอยากอุ้มอยากจับ ก็อย่างว่าล่ะนะ รอตั้งหลายวันกว่าจะได้เลี้ยง แต่สำหรับเด็กที่พามาด้วย เค้าไม่ได้คิดแบบนั้นนะค่ะ การที่เค้าย้ายมาอยู่กับคนแปลกหน้าที่แปลกๆ กลิ่นแปลก เป็นธรรมดาค่ะที่เค้าจะตื่นกลัว ร้อง เค้าก็เหมือนคนเรา มีชีวิตจิตใจ อย่างเวลาที่เราไปไหนคนเดียวในที่ๆไม่คุ้นเคย เรารู้สึกยังไงน้องเค้าก้อรู้สึกอย่างนั้น

เพราะฉะนั้นโปรดให้เวลาในการปรับตัวกับเค้าบ้าง บางตัวอาจใช้เวลา3-7วัน แต่บางตัวอาจใช้เวลา 8-15 วัน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 15วันค่ะ
   วันแรกที่พาเค้าเข้าบ้านสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่ต้องเจอ อุปกรณ์ต่างๆที่ควรมี
 อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไว้รอสมาชิกใหม่ค่ะ +
1. กรง หรือ คอก (ควรเป๊นกรงใหญ่ หรือ แล้วแต่งบ)



2. ตะข่ายสีเขียวไว้ปูพื่นกรง (หาซื้อได้ที่ JJ หรือ ร้านขายต้นไม้ค่ะ)



3. ถ้วยอาหาร ขวดน้ำ ที่ใส่หญ้าแห้ง(แขวนกรง เด็กๆจะได้มีฉี่ใส่จ๊ะ)

4. อาหาร เช่น อาหารเม็ด หญ้าขนสด หรือ หญ้าแห้ง ผัก-ผลไม้,วิตามินซี
  วิตามินซีทั้งแบบเป็นเม็ด และเป็นน้ำ-ผสมน้ำ
ปล. ส่วนวิตามินซี พี่ให้เด็กๆที่บ้านกินเป็นแบบเม็ด ขนาด100มิลิกรัมที่ขายตามร้านขายยาทั่วไป ราคาถูก แถมใช้แทนกันได้กับวิตามินที่เป็นน้ำ ตอนแรกอาจต้องบังคับ แต่พอเค้าได้ลองกินซัก 2-3 วันต่อไป เค้าจะวิ่งมาขอเองค่ะ
วิตามินซีแบบเม็ด ขนาด50มิลิกรัม ปริมาณที่ให้วันละ เม็ด/ตัวหรือ เม็ดครึ่ง ก็ได้(ปริมาณวิตามินซี ที่แกสบี้ต้องการต่อวันคือ30-50มก.)
ตัวอย่าง เช่น ตัวเล็ก อายุ 1-3เดือน ให้แค่เม็ดเดียวก็พอค่ะ
แต่ถ้าเป็นหนูแกสบี้ที่โตเต็มวัยแล้ว อายุเกิน7เดือนขึ้นไป น้ำหนักเกิน 1 กก.
ก็ให้ ทานได้ วันละ 1 เม็ดครึ่งค่ะ  หลังอาหารนะค่ะ

  สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อพาสมาชิกใหม่เข้าบ้าน +


ราควรเอาเค้าเข้ากรงและไม่ควรไปยุ่งกับเค้าซัก 2-3 วัน

อาจจะไปด่อมๆมองๆตามประสาคนเห่อบ้างก็ได้....อิอิ

แต่ไม่ควรเอาเค้ามาอุ้ม เพราะเค้ายังตื่นกลัว พูดง่ายๆเค้ายังไม่คุ้น
ถ้าเราไปยุ่งกับเค้ามากๆ เค้าอาจจะไม่ไว้ใจเราและคิดว่าเราจะทำร้ายเค้าก็ได้



ทีนี้กลับกลายเป็นว่า อ้าว...ทำไมวันนั้น
อ่านบทความจากเวปพี่พร้าวบอกว่า 3-7 วัน แต่นี่ 2อาทิตย์แล้ว
ทำไมเค้าไม่ยอมให้จับเลย พี่พร้าวโกหกรึป่าว คุณน้องขา...ใจเย็นๆนะค่ะ
อย่างที่บอกล่ะค่ะ ให้เวลาเค้าบ้าง รับรองว่าถ้าน้องๆทำตามที่พี่บอก
ไม่เกิน วันจริงๆ ไม่ได้โม้....

  สิ่งแรกที่ต้องเจอ +
อเค้าเข้ากรงได้เค้าจะหาที่หลบ ซึ่งบางคนอาจซื้อบ้านสำหรับกระต่ายแกสบี้
บางคนอาจตัดกล่องกระดาษทิชชู เพื่อให้เปนที่หลบของเค้า
แต่พี่ไม่เนะนำนะค่ะ เพราะการที่เรามีที่หลบให้เค้า มันจะทำให้เค้าปิดตัวเอง
เวลาได้ยินเสียงอะไรนิดนึงก้อจะวิ่งเข้าที่หลบเหมือนหนูขี้ขลาด
และที่สำคัญจะเป็นการยากที่จะให้เค้าคุ้นเคยกับเราค่ะ
เราจะได้ยินเสียงเค้าร้องในตอนกลางคืน (ร้องตลอดเวลา)
แน่ล่ะเค้ากำลังนอนร้องไห้ค่ะ บางคนอาจจะบอกว่าบ้าไปแล้ว
พี่พร้าวมั่วหรือเปล่า แต่ขอบอกว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ


"เราอยู่ที่ไหนเนี้ย ทำไมไม่เห็นแม่ ไม่เห็นพ่อ ไม่เห็นพี่น้อง ไม่เห็นเพื่อนๆ"

(อันแน่แอบน้ำตาซึมตามล่ะสิ...อิอิ)
สัตว์ก็ไม่แตกต่างจากเรา  สมมุติว่าเราเป็นแบบเค้า เรารู้สึกยังไง ?


เค้าก็เช่นกัน....ลองหาซื้อตุ๊กตาตัวเล็กๆ แล้วเอาไว้ในกรงให้เป็นเพื่อน

เค้าซักตัวสองตัวอาจช่วยได้นะค่ะ ถ้าเค้าร้องมากๆเราอาจเดินไปคุยกับเค้า

ไปปลอบเค้า พี่ว่าน่าจะเป็นการผูกมิตรที่ดี....


สัตว์ก็เหมือนคน ต้องการความรักความเข้าใจ การเอาใจใส่
แม้เค้าจะไม่เข้าใจภาษาของเรา แต่เขาก็เข้าใจสีหน้าท่าทางและน้ำเสียง
โปรดสังเกตุกับท่าทางของเค้าซักนิด
การเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนการเลี้ยงลูกละจ๊ะ......ใจเย็นๆ

สำหรับผู้ที่เิริ่มเลี้ยงหรือเลี้ยงอยู่แล้ว ต้องการอาหาร อุปกรณ์แกสบี้ กระต่าย แฮมสเตอร์ 
สามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่ Cavykids shop ร้านพี่พร้าวยินดีให้บริการจ๊ะ